วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 13 การแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรมอรรถประโยชน์

1) โปรแกรมอรรถประโยชน์สำหรับระบบปฏิบัติการ (OS utility)
เป็นโปรแกรมอรรถประโยชน์ที่มักมีการติดตั้งมาพร้อมระบบปฏิบัติการอยู่แล้ว ซึ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างเช่น 
1.1)         โปรแกรมอรรถประโยชน์จัดการไฟล์ (file manager)
เป็นโปรแกรมอรรถประโยชน์ที่มีหน้าที่หลักในการจัดการเกี่ยวกับไฟล์ต่างๆ เช่น สามารถคัดลอกแฟ้มข้อมูล เปลี่ยนชื่อแฟ้มข้อมูล ลบแฟ้มข้อมูล หรือเรียกใช้งานโปรแกรมต่างๆ  ได้อย่างสะดวกเป็นต้น ซึ่งระบบปฏิบัติการวินโดวส์รุ่นใหม่ๆ ยังได้เพิ่มคุณสมบัติที่แสดงไฟล์เป็นรูปภาพเหมือนจริงเพื่อนำมาปรับใช้กับไฟล์ที่เป็นรูปภาพอีกด้วย
 1.2)         โปรแกรมยกเลิกการติดตั้งโปรแกรม (uninstaller)
เป็นโปรแกรมอรรถประโยชน์ที่ใช้ในการยกเลิกโปรแกรมที่ทำการติดตั้งไว้ในระบบ เมื่อผู้ใช้ทำการติดตั้งโปรแกรม ระบบปฏิบัติการจะทำการบันทึกโปรแกรมนั้นไว้ในระบบไฟล์ หากผู้ใช้ต้องการลบโปรแกรมนั้นออกจากเครื่องสามารถใช้โปรแกรมยกเลิกการติดตั้งโปรแกรมได้ 
1.3)         โปรแกรมอรรถประโยชน์ดิสก์ (disk scanner)
 เป็นโปรแกรมอรรถประโยชน์ที่ใช้ในการตรวจหาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับฮาร์ดดิสก์ ซึ่งผู้ใช้สามารถกำหนดให้โปรแกรมตรวจสอบดิสก์และซ่อมส่วนที่เสียหายได้ 
1.4)         โปรแกรมจัดเรียงพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของฮาร์ดดิสก์ (disk defragmenter)
 เป็นโปรแกรมอรรถประโยชน์ที่มีประโยชน์ในการใช้งานอย่างมาก เพราะเมื่อมีการเรียกใช้งานดิสก์ของคอมพิวเตอร์บ่อยๆ จะทำให้แฟ้มข้อมูลกระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบ ไม่ได้อยู่เป็นกลุ่มเดียวกัน และเมื่อต้องการเรียกใช้อีกในภายหลัง จะทำให้ใช้เวลามากขึ้นในการดึงข้อมูลนั้นๆ โดยโปรแกรมประเภทนี้จะทำหน้าที่จัดเรียงไฟล์ต่างๆ ให้เป็นระเบียบมากขึ้น เพื่อช่วยในการเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ด
1.5)         โปรแกรมรักษาหน้าจอ (screen saver)
เนื่องจากเมื่อเปิดจอภาพของคอมพิวเตอร์ให้ทำงานและปล่อยทิ้งไว้ให้แสดงภาพเดิมโดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เป็นเวลานานจะเกิดรอยไหม้บนสารเรืองแสงที่ฉาบผิวจอ และไม่สามรถลบออกไปได้ ซึ่งเมื่อปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานอาจส่งผลให้อายุการใช้งานของหน้าจอคอมพิวเตอร์สั้นลงตามไปด้วย โปรแกรมประเภทนี้จะช่วยป้องกันปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่าระยะเวลาให้แกรมตรวจสอบและเริ่มทำงานได้หากไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ของจอภาพ เช่น 5 นาที หรือ 10 นาที เป็นต้น ซึ่งเมื่อเราขยับเมาส์ หรือเริ่มทำงานใหม่ โปรแกรมนี้ก็จะหายไป
1. ตรวจสอบอาการเสียของเครื่องจากเสียง Beep Code
                ทุก ๆ ครั้งที่คุณเปิดใช้งานเครื่องครั้งแรก ก็จะได้ยินเสียง ปี๊ป ดังสั้น ๆ 1 ครั้ง แล้วเครื่องก็จะทำงานต่อตามปกติ แต่ถ้าเมื่อไรที่คุณได้ยินสียงมากกว่า 1 ครั้ง หรือมีเสียงดังยาว ๆ จากนั้นเครื่องก็หยุดนิ่ง ก็ทำใจไว้ได้เลยว่าเครื่องของคุณมีปัญหาแล้ว เมื่อคุณเจออาการแบบนี้ให้รีบปิดเครื่องทันที เพราะตราบใดที่เครื่องยังไม่ได้รับการแก้ไข ก็จะไม่สามารถใช้งานเครื่องได้จนกว่าจะแก้ปัญหาเสียก่อน เสียงปี๊ปที่เราได้ยินนี้จะถูกเรียกว่า Beep Code ซึ่งจะมีจำนวนครั้งไม่เท่ากัน และมีเสียงดังสั้นบ้างยาวบ้าง ลักษณะของเสียงที่แตกต่างกันนี้เองที่บอกเราว่า อุปกรณ์ชิ้นไหนมีปัญหา ดังนั้นถ้าเจอปัญหาลักษณะนี้ก็ต้องลองฟังให้ดีว่า ดังกี่ครั้ง สั้นยาวแบบไหน แล้วนำไปเทียบดูในตารางไบอสตามยี่ห้อของไบออส เพื่อจะรุ้ว่าอะไรคือต้นเหตุ แล้วจะได้หาทงแก้ไขต่อไป
ความหมายของบี๊บโค้ดจากไบออส AWARD
เสียงบี๊บ
สาเหตุ
ไม่มีเสียง
ขณะที่เปิดเครื่องแล้วไม่มีเสียงอะไรเลย อาจมีปัญหาที่ตัวเพาเวอร์ซัพพลาย ,เมนบอร์ด ,
ลำโพงคอมพิวเตอร์ หรือไม่ได้ต่อสายสัญญาณจากลำโพงไปที่เมนบอร์ด
1 ครั้ง
เครื่องทำงานปกติ แต่ถ้าไม่มีภาพเกิดขึ้นบนหน้าจอ ให้ตรวจดูที่ปุ่มเพาเวอร์ของจอว่าเปิด
หรือไม่ และเช็คที่สายสัญญาณของจอภาพว่าต่อเข้ากับการ์ดแสดงผลแล้วหรือยัง
2 ครั้ง
มีปัญหาที่แรม อาจเกิดจากเสียบแรมไม่แน่น ให้ลองเสียบแรมใหม่ถ้ายังไม่ได้ก็ให้ลองใช้
ยางลบดินสอเช็ดที่แถบทองแดงเพื่อลบคราบสกปรกที่อาจเกิดจากการสัมผัสขณะติดตั้ง ถ้า
ยังมีปัญหาก็ให้ลองนำแรมไปเสียบเมนบอร์ดตัวอื่นดู ถ้าแรมทำงานปกติก็แสดงว่า
เมนบอร์ดเสีย
3 ครั้ง
เช่นเดียวกับเสียงดัง 2 ครั้ง
4 ครั้ง
เช่นเดียวกับเสียงดัง 2 ครั้ง

5 ครั้ง
เช่นเดียวกับเสียงดัง 2 ครั้ง
6 ครั้ง
มีปัญหาจากตัวชิปที่ทำหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของคีย์บอร์ด ให้ลองเปลี่ยน
คีย์บอร์ดตัวใหม่เข้าไปแทนก่อน ถ้าไม่หายให้เปลี่ยนชิปที่เสียหรืออาจต้องเปลี่ยนเมนบอร์ด
7 ครั้ง
มีปัญหาที่ตัว ซีพียู

8 ครั้ง
มีปัญหาที่การ์ดแสดงผล ซึ่งอาจเกิดจากเสียบไม่แน่น ให้ลองถอดการ์ดแล้วเสียบไปใหม่
หรืออาจทำความสะอาดแถบทองแดงเสียก่อน โดยใช้ยางลบดินสอที่แถบทองแดง แล้วจึง
เสียบลงu3652 .ปใหม่
9 ครั้ง
มีปัญหาที่ไบออสต้องเปลี่ยนใหม่
10 ครั้ง
มีปัญหาที่ซีมอส ( CMOS)
11 ครั้ง
มีปัญหาที่หน่วยความจำแคช ( Cache)

2. ตรวจสอบอาการเสียของเครื่องโดยดูจากข้อความที่แจ้งบนหน้าจอ
               นอกจากสัญญาณเสียง Beep Code ที่ไบออสจะคอยแจ้งให้เราทราบแล้ว หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น
ในขั้นตอนการ POST หรือมีความผิดพลาดของอุปกรณ์ตัวใด แต่ในส่วนของภาคการแสดงผลยังสามารถใช้ได้
ไบออสจะรายงานข้อความผิดพลาดนั้นออกมา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเข้าใจความหมายเพื่อจะได้สามารถแก้ไข
ปัญหาได้อย่างถูกต้อง      การแจ้งปัญหาหรือความผิดปกติที่เครื่องตรวจพบด้วยข้อความบนหน้าจอ ซึ่งเราเรียกว่า Message Error นับป็นการแจ้งปัญหาอีกแบบหนึ่งที่มีประโยชน์ เพราะเราสามรถรู้ปัญหาได้ทันทีว่าอปกรณ์ตัวไหนทำงานผิดปกติ หรือไม่ก็รู้ว่าการทำงานส่วนใดมีปัญหา ซึ่งจะนำไปสู่แนวทางในการแก้ปัญหาที่ง่ายขึ่น ตัวอย่างของข้อความที่ปรากฎให้เห็นบนหน้าจอบ่อย ๆ อย่างเช่น
CMOS checksum Error
CMOS BATTERY State Low
HDD Controller Failure
Diskplay switch not proper
               ดังนั้นถ้าคุณพบว่าเครื่องได้แจ้งปัญหาให้ทราบก็ให้รับหาทางแก้ไขโดยด่วน แต่ถ้าไม่สามารถแก้ไขได้ก็ให้จดข้อความบนหน้าจอไว้ เพื่อเอาไว้สอบถามผู้ที่สามารถให้คำแนะนำได้หรือเอาไวให้ช่างที่ร้านซ่อมดู ก็ได้ เพื่อให้การตรวจซ่อมทำได้เร็วขึ้น
ข้อความผิดพลาด
ความหมาย
Cache Memory Bad. Do not Enable Cache
หน่วยความจำแคชเสีย ควรปิดการทำงานในส่วนนี้
CMOS BATTERY HAS FAILED
แบตเตอรี่ ที่จ่ายให้กับ CMOS หมดควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
C: Drive Error
ไม่พบฮาร์ดดิสก์ ควรตรวจเช็คการเชื่อมต่อฮาร์ดดิสก์และตั้งค่าไบออสใหม่
CMOS checkssum failure

ข้อมูลที่เก็บภายใน CMOS ไม่ถูกต้อง อาจเกิดจากแบตเตอรี่หมด                 ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ หากยังไม่หายอาจต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่
CMOS system options not set CMOS
เก็บข้อมูลไม่อยู่ อาจเกิดจากแบตเตอรี่อ่อน หมดควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ หรือเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่
CMOS diskplay type mismatch
ค่าการแสดงผลไม่ตรงกับที่กำหนดในไบออส ควรกำหนดค่าการแสดงผลใหม่
CMOS memory size mismatch
ขนาดของหน่วยความจำเปลี่ยนไปจากที่กำหนดในไบออส อาจเกิดจากหน่วยความจำ (แรม) บางส่วนเสียควรเปลี่ยนแรม
CMOS Time and Date Not Set
ค่าวันและเวลาไม่ถูกต้อง อาจเกิดจาก RTC (RealTime Clock) เสียหรือกำหนดค่าไม่ถูกต้อง ควรกำหนดค่าใหม่
การวิเคราะห์อาการเสียจากการ Post
ข้อความผิดพลาด
ความหมาย
DISK BOOT FAILURE INSERT SYSTEM DISK
AND PRESS ENTER
ไบออสไม่พบไดร์ฟที่สามารถบูตระบบปฎิบัติการได้
ให้เปลี่ยนไดร์ฟใหม่ (ส่วนใหญ่เกิดจากผู้ใช้ลืมแผ่น
ฟล็อบปี้ดิสก์ไว้ทำให้ไบออสไม่สามารถตรวจพบ)
DISK DRIVES OR TYPE MISMATCH ERROR-RUN
กำหนดชนิดของดิสก์ไดร์ฟไม่ตรงกับอุปกรณ์
ควรกำหนดใหม่ให้ตรงกับอุปกรณ์ที่ติดตั้ง
diskette Boot Failure

ไบออสไม่สามารถบูตระบบปฎิบัติการได้ อาจเกิดจาก
ไดร์ฟหรือแผ่นดิสก์ไม่มีระบบปฎิบัติการอยู่
Disk configuration error

ไบออสไม่รู้จักฮาร์ดดิสก์ อาจเกิดจากไบออสเวอร์ชัน
เก่าเกินไป ควรอัพเดตไบออสใหม่
Disk drive 0 seek failure

ไบออสตรวจสอบไม่พบฟล็อบปี้ไดร์ฟตามที่กำหนดไว้
ควรกำหนดค่าใหม่
Display switch not proper

ไบออสตรวจสอบไม่พบการ์ดแสดงผลและจอภาพ
ตามที่กำหนดไว้ควรกำหนดค่าใหม่
DISPLAY TYPE HAS CHANGED SINCE LAST
BOOT

ไบออสตรวจสอบพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงการ์ดแสดงผลนับจากการบูตเครื่องครั้งสุดท้าย หากบูตไม่ขึ้นควรกำหนดค่าหรือเปลี่ยนการ์ดแสดงผลใหม่
ERROR INITIALIZNG HARD DRIVE
CONTROLLER

ไบออสไม่สามารถติดต่อกับตัวควบคุมฮาร์ดดิสก์ได้
อาจเกิดจากการตั้งค่าในไบออสไม่ถูกต้อง หรือการ
เชื่อมต่อไม่แน่น ควรตั้งค่าใหม่ หรือตรวจสอบการ
เชื่อมต่อใหม่
ERROR ENCOUNTERED INITIALIZNG HARD
DRIVE

ฮาร์ดดิสก์ไม่สามารถทำงานได้ อาจเกิดจากการตั้งค่า
ในไบออสไม่ถูกต้อง หรือการเชื่อมต่อไม่แน่น ควรตั้งค่า
ใหม่ หรือตรวจสอบการเชื่อมต่อใหม่

FDD controller failure
ไบออสไม่สามารถติดต่อกับตัวควบคุมฟล็อบปี้ดิสก์ได้
อาจเกิดจากการตั้งค่าในไบออสไม่ถูกต้อง หรือการ
เชื่อมต่อไม่แน่น ควรตั้งค่าใหม่ หรือตรวจสอบการ
เชื่อมต่อใหม่
FLOPPY DISK CNTRLRERROR OR NO CNTRLR
PRESENT

ไบออสไม่สามารถติดต่อกับตัวควบคุมฟล็อบปี้ดิสก์ได้
อาจเกิดจากการตั้งค่าในไบออสไม่ถูกต้อง หรือการ
เชื่อมต่อไม่แน่น ควรตั้งค่าใหม่ หรือตรวจสอบการ
เชื่อมต่อใหม่
HDD Controller Failure
มีปัญหากับตัวควบคุมฮาร์ดดิสก์ อาจเกิดจากการตั้งค่า
ในไบออสไม่ถูกต้อง หรือการเชื่อมต่อไม่แน่น ควรตั้งค่า
ใหม่ หรือตรวจสอบการเชื่อมต่อใหม่
I/O card parity error at XXX
มีปัญหาในส่วนของการ์ขยายที่ตำแหน่ง XXX อาจเกิด
จากการตั้งค่าในไบออสไม่ถูกต้อง หรือการเชื่อมต่อไม่
แน่น ควรตั้งค่าใหม่ หรือตรวจสอบการติดตั้งใหม่
Invalid configuration information for slot X
การ์ดที่อยู่บนสล็อต X กำหนดค่าไม่ถูกต้อง การเชื่อมต่อไม่แน่น ควรตั้งค่าใหม่ หรือตรวจสอบการติดตั้งใหม่
Keyboard Error
คีย์บอร์ดมีปัญหา หรือไม่ได้ติดตั้งไว้ ควรตรวจสอบคีย์บอร์ด
PRESS A KEY To REBOOT
ไบออสพบปัญหาบางอย่างเกิดขี้น โดยพยายามแก้ปัญหาด้วยการสั่งให้บูตใหม่

วิธีการตรวจสอบคุณลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร์
ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน เรามีความจำเป็นที่จะต้องรู้รายละเอียดคุณลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานอยู่ ซึ่งเราสามารถนำวิธีการตรวจสอบคุณลักษณะที่แนะนำนี้ เพื่อทำการตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งจะซื้อมาใหม่ หรือตรวจสอบคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานอยู่ว่ามีประสิทธิภาพการใช้งานแค่ไหน และเหมาะสมกับการติดตั้งโปรแกรม หรือการใช้งานโปรแกรมอะไรได้บ้าง และยังใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการแก้ไขปัญหาและบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์เบื้องต้นได้เอง หากจำเป็นจะต้องส่งซ่อมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่ง ก็สามารถตรวจสอบได้ว่าอุปกรณ์ที่ซ่อมเปลี่ยนมานั้นตรงกับที่เราต้องการหรือไม่จึงขอแนะนำวิธีการตรวจสอบคุณลักษณะ ตามหัวข้อหลักๆ ดังต่อไปนี้
ข้อที่ 1. ตรวจสอบว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ยี่ห้ออะไร หรือรุ่นอะไร
สามารถตรวจสอบได้จากเครื่องหมายผลิตภัณฑ์ที่ติดไว้ที่ตัวเครื่อง และเอกสารคู่มือเครื่องที่ส่งมอบมาพร้อมกับตัวเครื่อง
ข้อที่ 2. ตรวจสอบว่าใช้หน่วยประมวลผลกลาง(CPU)ยี่ห้อ อะไร รุ่นอะไร และความเร็วเท่าใด
สามารถตรวจสอบได้จากวิธีดังนี้
วิธีที่ 1 โดยการบูทเข้าระบบปฏิบัติการ แล้วตรวจสอบตามขั้นตอนดังนี้
1. คลิกขวาที่ไอคอน MyComputer ที่อยู่หน้า Desktop เลือกคำสั่ง Properties
2. เลือกแทป General ดูข้อมูลในส่วนของ Computerซึ่งจะบอกรายละเอียดของยี่ห้อ รุ่นและความเร็ว

วิธีที่ 2
1. คลิกขวาที่ไอคอน My Computer ที่อยู่หน้า Desktopเลือกคำสั่ง Properties
1.        เลือกแทป Hardware แล้วคลิกที่ปุ่ม Device Manager
3. คลิกเลือกที่ Processors

ข้อที่ 3. ตรวจสอบว่ามีหน่วยความจำหลักหรือแรมขนาดเท่าใด สามารถตรวจสอบได้โดยวิธีดังนี้
1. คลิกขวาที่ไอคอน My Computer ที่อยู่หน้า Desktopเลือกคำสั่ง Properties
2. คลิกที่แทป General ตรวจสอบได้จากหัวข้อ Computer

ข้อที่ 4. ตรวจสอบว่าใช้แผงวงจรหลัก ยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร และใช้ชิปเซ็ตยี่ห้ออะไร
สามารถตรวจสอบจากคู่มือเมนบอร์ดที่ส่งมอบมาพร้อมกับตัวเครื่อง
ข้อที่ 5. ตรวจสอบว่าใช้ฮาร์ดิสก์ยี่ห้ออะไร และมีความจุเท่าใด
สามารถตรวจสอบได้โดยวิธีการดังนี้
1. ยี่ห้อให้ดูจากตัวอุปกรณ์ฮาร์ดดิสก์ เพราะมีเครื่องหมายผลิตภัณฑ์ติดอยู่บนตัวฮาร์ดดิสก์
2. ส่วนขนาดสามารถดูได้โดยวิธีการ คลิกขวาที่ไอคอน My Computer หน้าจอ Desktop เลือกManage

3. คลิกเลือก Disk Management จะแสดงข้อมูลของ Harddisk ว่ามีกี่ Partition แล้วนำข้อมูล Capacity ของ            แต่ละ partition มาบวกกัน จะได้ข้อมูลความจุของ Harddisk ซึ่งเป็นค่าประมาณ

ข้อที่ 6. ตรวจสอบว่าการ์ดจอยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร และมีขนาดหน่วยความจำเท่าใด
สามารถตรวจสอบได้โดยวิธีการดังนี้
1. คลิกขวาบนพื้นที่ว่างหน้า Desktop เลือก Properties
2. คลิกที่แทป Setting แล้ว คลิกที่ปุ่ม Advanced
3. คลิกเลือกแทป Adapter ดูข้อมูลได้จาก Adapter Information

ข้อที่ 7. ตรวจสอบยี่ห้อและขนาดของจอภาพ
สามารถตรวจสอบได้จากเครื่องหมายผลิตภัณฑ์ที่ติดไว้ที่ตัวเครื่อง และเอกสารคู่มือที่ส่งมอบ
มาพร้อมกับจอภาพ

ข้อที่ 8. ตรวจสอบยี่ห้อ รุ่น ของเมาส์และคีย์บอร์ด
สามารถตรวจสอบจากเครื่องหมายผลิตภัณฑ์ที่ติดไว้ที่ตัวเมาส์, คีย์บอร์ด หรือเอกสารคู่มือที่ส่ง
มอบมาพร้อมกับอุปกรณ์
ข้อที่ 9. ตรวจสอบซาวการ์ด สามารถตรวจสอบได้ดังนี้
1. คลิกที่ปุ่ม Start เลือก All Programs หรือ Programs 4Accessories 4System Tools
4System Information
2. คลิกเลือกที่เครื่องหมายบวก หน้า Components แล้วคลิกเลือก Sound Device ดูข้อมูลจาก
ค่า Value ของ Item Name

ข้อที่ 10. ตรวจสอบตรวจสอบว่าใช้แลนการ์ด หรือโมเด็มยี่ห้ออะไร
สามารถตรวจสอบได้โดยวิธีการดังนี้
1. คลิกขวาที่ไอคอน My Computer ที่อยู่หน้า Desktopเลือกคำสั่ง Properties
2. เลือกแทป Hardware
3. คลิกที่ปุ่ม Device Manager
4. ถ้าเป็นโมเด็ม คลิกเลือกที่ Modem
5. ถ้าเป็นแลนการ์ดให้คลิกเลือกที่
Network adapters 
ข้อที่ 11. ตรวจสอบว่าใช้ระบบปฏิบัติการอะไร สามารถตรวจสอบได้โดยวิธีการดังนี้
1. คลิกขวาที่ไอคอน My Computerที่อยู่หน้า Desktopเลือกคำสั่ง Properties
2. คลิกที่แทป General ตรวจสอบได้จากหัวข้อ System

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น